ความหมายของ Ai


AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษดโดยภาษา​ไทยใช้คำว่า ปัญญาประดิษฐ์ หมายถึง ระบบประมวลผลของ​คอมพิวเตอร์ หุ่นยนต์ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่​มีการวิเคราะห์เชิงลึกคล้ายความฉลาดของมนุษย์ และสามารถก่อให้เกิด​ผลลัพธ์ที่เป็นการกระทำได้

ปัญญาประดิษฐ์(Ai)พัฒนาขึ้นมาอย่างไร


ในเอกสารสัมมนาของ Alan Turing จากปี 1950 เรื่อง "Computing Machinery and Intelligence" เขา​พิจารณาว่าเครื่องจักรสามารถคิดเองได้หรือไม่ ในบทความนี้ Turing ได้บัญญัติคำว่าปัญญาประดิษฐ์ขึ้นเป็น​ครั้งแรก และนำเสนอเป็นแนวคิดทางทฤษฎีและปรัชญา

ในระหว่างปี 1957 ถึง 1974 การพัฒนาด้านคอมพิวเตอร์ทำให้คอมพิวเตอร์จัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้นและประมวล​ผลได้เร็วขึ้น ในช่วงเวลานี้ นักวิทยาศาสตร์ได้ต่อยอดพัฒนาอัลกอริธึมแมชชีนเลิร์นนิง (ML) ขึ้นมา ความ​ก้าวหน้าในสาขานี้ทำให้หน่วยงานต่างๆ เช่น Defense Advanced Research Projects Agency (DARPA) ​จัดตั้งกองทุนสำหรับการวิจัย AI ในตอนแรก เป้าหมายหลักของการวิจัยนี้คือการค้นหาว่าคอมพิวเตอร์สามารถ​ถอดเสียงและแปลภาษาพูดได้หรือไม่

ตลอดช่วงทศวรรษ 80 มีเงินทุนเพิ่มขึ้นและชุดเครื่องมืออัลกอริธึมที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ในการพัฒนา AI ก็มี​ประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น David Rumelhart และ John Hopfield ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับเทคนิคดีปเลิร์น​นิง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ได้

ตั้งแต่ปี 1990 ถึงต้นทศวรรษ 2000 นักวิทยาศาสตร์บรรลุเป้าหมายหลักของ AI ในหลากหลายด้าน เช่น การ​คว้าแชมป์ในการแข่งขันหมากรุกโลก ด้วยข้อมูลการประมวลผลและพลังในการประมวลผลที่เพิ่มมากขึ้นในยุค​สมัยใหม่มากกว่าทศวรรษที่ผ่านมา การวิจัยด้าน AI จึงเป็นเรื่องที่นิยมและเข้าถึงได้มากขึ้น โดยมีการพัฒนา​อย่างรวดเร็วไปสู่ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป ดังนั้นซอฟต์แวร์จึงสามารถทำงานที่ซับซ้อนได้ ซอฟต์แวร์สามารถสร้าง ​ตัดสินใจ และเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ทำได้



ประเภทของ Ai

Ai มีหลายประเภท Ai โดยทั่วไปจะแบ่งออก เป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่:


1.Artificial Narrow intelligence (AN) หรือ Weak Ai


Ai ประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเฉพาะอย่าง เช่น การจดจำใบหน้า การแปลภาษา หรือวิเคราะห์​ข้อมูล

ตัวอย่าง ระบบนำทางในรถยนต์ แอพแปลภาษา ระบบตรวจจับสแปม

ข้อดี ANI ความเชี่ยวชาญในงานเฉพาะอย่างและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อเสีย ไม่สามารถทำสิ่งที่อยู่นอกเหนือการออกแบบได้






2.Artificial general intelligence (AGI) หรือ Strong Ai


Ai ประเภทนี้มีความสามารถในการเรียนรู้และทำงานได้หลากหลายเหมือนมนุษย์

ข้อดี AGI สามารถช่วยแก้ปัญหาได้หลากหลายและทำงานได้หลายหฃากเหมือนมนุษย์

ข้อจำกัด AGI ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและยังไม่สามารถสร้างขึ้นได้ในปัจจุบัน








3.Superintelligence (ASI)


Ai ประเภทนี้มีความสามารถในการเรียนรู้และทำงานได้หลากหลายกว่ามนุษย์ทุกด้าน ทั้งด้านสติ​ปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการแก้ปัญหา

ข้อดี ASI สามารถช่วยแก้ปัญหาได้หลากหลายที่มนุษย์ไม่สามารถแก้ไขได้ และนำไปสู่การพัฒนา​สังคมระดับสูง

ข้อจำกัด ASI ยังเป็นเพียงแนวคิดและยังไม่สามารถสร้างขึ้นได้ในปัจจุบัน







อุปกรณ์และเทคโนโลยี

ที่เกี่ยวข้องกับ Ai

1.เทคโนโลยีรู้จำเสียงพูด (Speech Recognition Technology)


2.แชทบอท (Chatbot)



3.เทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing Technology)

4. การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning)


5.ไบโอเมทริกซ์ (Biometrics)


6.ปัญญาประดิษฐ์ทางอารมณ์ (Emotion Recognition)



7.การตรวจจับรูปภาพ (Image Recognition)



8.การตรวจจับตัวหนังสือ (Text Recognition)


Ai กับสิ่งแวดล้อม



AI มีบทบาทสำคัญช่วยธุรกิจรับมือกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนความยั่งยืน โดยทุกวันนี้เราได้เห็นการที่​โลกเผชิญกับวิกฤตการณ์รอบโลก ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียธรรมชาติและความ​หลากหลายทางชีวภาพ ไปจนถึงปัญหามลภาวะและขยะ ที่สาเหตุหนึ่งอาจมาจากการขาดข้อมูลที่มากพอ แต่​ปัจจุบันเรามีข้อมูลด้านสภาพภูมิอากาศมากขึ้นกว่าในอดีต และการเข้าถึง การทำความเข้าใจและวิธีดำเนินการ​กับข้อมูลนั้นมีความสำคัญกับการรับมือวิกฤตการณ์เหล่านี้ ซึ่ง “AI” เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่เป็นศูนย์กลางช่วย​จัดการกับข้อ


ความกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศและระดับมลพิษ


สถานการณ์ปัจจุบันผู้คนต่างสนใจเกี่ยวกับปัญหามลพิษที่รุนแรงและกระทบความเป็นอยู่ เกิดใกล้ตัวไปยัง​บริเวณที่ตนพักอาศัยและพื้นที่ใกล้เคียงมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีหลายล้านคนทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทาง​อากาศ โดยทั้งปัญหามลพิษทางอากาศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กระจายทั่วโลก มีวิธีเดียวที่​สามารถสู้กับปัญหานี้คือความจำเป็นต้องมีโซลูชันระดับโลก


โดยปัจจุบันมีทางออกและวิธีการใหม่ๆ เพื่อความยั่งยืนและแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่ง AI ก็เป็นอีกเทคโนโลยี​ที่สามารถนำมาช่วยจัดการกับมลพิษทางอากาศได้ อย่างเช่นการใช้ AI รวบรวมข้อมูลเซนเซอร์ดาวเทียมและ​ช่วยนักวิจัยในการสร้างแบบจำลองสภาพภูมิอากาศเพื่อการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ


ทิศทางของ Ai ใน​อนาคต

แนวโน้มของ AI ที่กำลังเปลี่ยนแปลงธุรกิจในอนาคต


ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไปอย่างรวดเร็ว ปัญญาประดิษฐ์หรือที่เรียกว่า “AI” กลายเป็นเครื่องมือที่ท้าทาย​และมีผลกระทบใหญ่ต่อทุกด้านของชีวิตเรา ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การศึกษา การแพทย์ หรือแม้กระทั่งการ​สร้างสรรค์ศิลปะ แม้ว่า AI จะเริ่มขึ้นต้นจากความคิดและแนวคิดในอดีต แต่ปัจจุบันและอนาคต AI กำลังก้าวข้าม​ขีดจำกัดเพื่อยกระดับขีดความสามารถและประสิทธิภาพในด้านต่าง ๆ




AI ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์หรือโปรแกรมที่จำลองพฤติกรรมมนุษย์เท่านั้น แต่ยังเป็น Machine Learning ที่ถูก​ออกแบบมาเพื่อเรียนรู้และประมวลผลข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถวิเคราะห์และเข้าใจข้อมูลในรูปแบบที่​มนุษย์ไม่สามารถทำได้ในเวลาที่เหมาะสม สร้างโอกาสและเป็นทางเลือกในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนและในการ​สร้างนวัตกรรมใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หนึ่งในความท้าทายของ AI คือความสามารถในการเรียนรู้เอง โดยระบบ ​AI สามารถนำเสนอคำตอบและคำแนะนำตามข้อมูลที่ได้รับ ไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเฉพาะเจาะจง ดังนั้น การ​พัฒนา AI ไม่ใช่เพียงการเขียนโค้ด แต่เป็นการสร้างโมเดลการเรียนรู้ให้มีความแม่นยำและเหมาะสมในเงื่อนไขที่ไม่​แน่นอน AI ได้รับการนำมาใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม


ผู้จัดทำ


ผู็พัฒนาเว็บไซต์

นาย สัญญา เจจือ

67003287022

Line id utity55566

fB:Sanya Jejue

Ig:sa.ad.tsu

Illustration of a Smiling Man Wearing a Blue Hoodie